คำเทศนาเรื่อง : คนแห่งพระพร
ข้อพระคัมภีร์ สดด. 34:19 คนชอบธรรมนั้นถูกข่มใจหลายอย่าง แต่พระเจ้าทรงช่วยกู้เขาออกมาให้พ้นหมด และ ปฐก 26:26-35
คอลัมนิสต์คริสเตียน ผลงานเขียนคำหนุนใจ บทเรียนข้อคิดต่างๆ คำเทศนา
โดย ศิษยาภิบาลเรวัฒน์ เทพจักร์
คริสตจักรศรัทธาร่วมใจ
คำนำ : หนทางที่คนแห่งพระพรจะเดินก้าวไปนั้น ไม่ใช่หนทางที่ง่ายดายนัก แต่เราก็เรียนรู้แล้วจากบทเรียนในอาทิตย์ที่ผ่ายมาว่า อิสอัคต้องยอมและเสียสละ และคนของพระเจ้าต้องขยันขันแข็งที่จะลงแรงทำงานหนัก สู้ชีวิต และไม่หยุดการนมัสการพระเจ้า
มีหลายคนถามต่อสู้ภายในว่า แล้วผมจะต้องยอมขนาดไหนหรือ จะต้องยอมเสียสละมากสักกี่ครั้ง เหมือนเช่นสาวกถามพระเยซูว่า หากมีคนหนึ่งคนใดกระทำผิดให้เราเคียงจะต้องอภัยเขาสักกี่ครั้ง 7 ครั้งไหม และพระเยซูตรัสตอบเขาว่า ไม่ใช่แค่7 ครั้ง แต่หมายถึง 7x70 ครั้ง
ลักษณะคนแห่งพระพร
ประการที่ 1 ได้รับความเจ็บปวดเพราะความเกลียดชัง ปฐก 26:27
-อิสอัคและครอบครัวคนแห่งพระพรกลับต้องเสียสละและเดินถอยออกเพียงเพื่อว่าไม่ต้องการมีเรื่องราวต่อกัน ไม่ใช่เพราะไม่มีทางสู้ หรือไม่มีทางไป หรือจนตรอก อับจนปัญญา
-บางครั้งการยอมเดินออกมา อาจจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่สุดในชีวิต เหมือนอิสอัคจำต้องเดินออกจากความเกลียดชัง จากคนกลุ่มหนึ่ง ถูกขับไล่ และกระทำอย่างใจจืดใจดำต่ออิสอัค
-สดด. 34:19 คนชอบธรรมนั้นถูกข่มใจหลายอย่าง แต่พระเจ้าทรงช่วยกู้เขาออกมาให้พ้นหมด
-กว่าที่วันเวลาที่คนของพระเจ้าจะสามารถเดินผ่านไปได้ ก็ต้องใช้เวลานานหลายเดือน พี่น้องอย่าคิดว่าเมื่อท่านเป็นคนแห่งพระพร ท่านจะไม่ต้องเผชิญกับกับความเจ็บปวดนี้เราทุกคนต้องเจอ แต่เราต้องอดทนนาน และเผชิญกับมันโดยพึ่งพาพระเจ้า
-พระเจ้าทรงเมตตาคนของพระเจ้า ไม่ได้ทอดทิ้งเลย ในขณะที่เราเดินออกมาอย่างผู้เสียสละ ยอม พระเจ้าทรงกระทำให้ศัตรูคนที่เคยกระทำอย่างสัตว์ต่ออิสอัค คนที่เคยจงเกลียดจงชัง คนที่หาเหตุแกล้งตลอด วันนี้คนเหล่านั้นพระเจ้ากลับนำเขามาขอคืนดีด้วย มาขอสร้างความสัมพันธ์ไมตรีใหม่กับอิสอัค
-พระราชาอาบีเมคเลค พระสหาย และแม่ทัพใหญ่ ( คนมีสี และพวกอำมาต ) ต่างก็ถ่อมตัวถ่อมใจยอมเข้ามาหาอิสอัคคนเล็กน้อยที่ยอมก่อน สภษ. 18:12 ใจของคนก็จองหองก่อนถึงการถูกทำลาย แต่ความถ่อมใจเดินอยู่หน้าเกียรติ สภษ. 22:4 บำเหน็จของความถ่อมใจและความยำเกรงพระเจ้า คือความมั่งคั่งเกียรติและชีวิต
-ถ้าเราเป็นคนใจถ่อม พระเจ้าจะประทานเกียรติให้เราเอง ปฐก 26:27 อิสอัคแปลกใจมากๆ ท่านถามว่า โฉนท่านมาหาข้าพเจ้า เมื่อท่านเกลียดชังข้าพเจ้า และขับไล่ข้าพเจ้า ? พระราชาตรัสตอบเขาว่า เราเห็นแล้วว่าพระเจ้าทรงสถิตกับท่าน เราเห็นแล้วว่าพระเจ้าทำได้ ไม่มีอะไรที่ยากสำหรับพระเจ้า พระเจ้ามีวิธีที่จะทำให้คนใจแข็งกลับเป็นใจอ่อนลงได้ พระเจ้าเปลี่ยนแปลงได้พระราชาได้…. ทำให้เรารู้ว่าพระเจ้าอยู่เหนือสถานการณ์ทุกปวง ดังนั้นเมื่อเราเจ็บปวดใจ และทุกข์ใจกับใครบางคน และใครบางคนทำให้เรามีชีวิตที่ยุ่งยากลำบาก และทำให้เราสูญเสียทุกอย่าง บางคนทำให้เกิดเฮอริเครนไอรีนในชีวิตเรา สักวันพระเจ้าจะให้เราได้รับการเยียวยารักษา บาดแผลที่เจ็บปวดกลับกลายเป็นพระพรในชีวิต เพื่อที่เราจะได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า เหมือนบทเพลงที่ว่า ทรงเปลี่ยนความเศร้าโศกเป็นความชื่นชมยินดีได้ สดด. 30:11 สำหรับข้าพระองค์ พระองค์ทรงเปลี่ยนการไว้ทุกข์เป็นการเต้นรำ พระองค์ทรงแก้เสื้อผ้ากระสอบของข้าพระองค์ออก และทรงคาดเอวข้าพระองค์ด้วยความยินดี
-พระคัมภีร์สุดดีบทที่ 30 เป็นบทคำอธิษฐานในยามที่ท่านรู้สึกเจ็บปวด คู่อริทำให้ท่านเจ็บปวด และท่านควรจะร้องขอความอุปถัมภ์ การรักษาบาดแผลใจจากพระเจ้า วันนี้ไม่ว่าท่านจะเจ็บปวดเพราะเรื่องอะไร อย่าลืมว่าพระเจ้าจะทำให้เราชื่นชมยินดีภายหลังได้ เพียงเราไม่บ่นว่าพระเจ้า แต่ขอให้เราอดทนเอา ไว้ชีวิตพรุ่งนี้ไว้กับพระเจ้า แล้วพระเจ้าจะให้เราเดินผ่านวันที่เลวร้ายได้ ในโลกนี้เราจะต้องเจ็บปวดบ่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเราจะได้พักผ่อนนิรันดร์ในพระเจ้า ฮบ. 4:10 เพราะว่าผู้ใดที่ได้เข้าสู่การพำนักของพระเจ้าแล้ว ก็ได้พักงานของตน เหมือนพระเจ้าได้ทรงพักพระราชกิจของพระองค์
-ความเจ็บปวดที่เจ็บปวดยิ่งกว่า ขอพี่น้องดูใน ปฐก 26:34-35 เมื่อลูกชายคนที่อิสอัค
รักมาก เลี้ยงดู ให้ทั้งความรักความอบอุ่นจนกระทั่งอายุได้ 40ปี พ่อแม่รักพระเจ้ามากๆ แต่ลูกชายกลับเลือกทำในสิ่งที่ทำให้พ่อแม่เจ็บปวดใจ และขมขื่นใจ โดยการไปเทียมแอกกับคนที่ไม่เชื่อพระเจ้า กับชนชาติที่ไม่เชื่อถือพระเจ้า 2คร. 6:14 ท่านอย่าเข้าเทียมแอกกับคนที่ไม่เชื่อ เพราะว่าความชอบธรรมจะมีหุ้นส่วนอะไรกับความอธรรม และความสว่างจะเข้าสนิทกับความมืดได้อย่างไร อสร. 10:10 และเอสราปุโรหิตได้ลุกขึ้นพูดกับเขาทั้งหลายว่า “ท่านทั้งหลายได้ละเมิดและได้แต่งงานกับหญิงต่างชาติ จึงได้ทวีกรรมชั่วของอิสราเอล
พี่น้องที่รัก…. ชีวิตของเรารักพระเจ้ามาก เดินกับพระเจ้าวันต่อวัน แต่อย่าคิดว่าเราจะไม่มีวันเจ็บปวด แต่ให้ทราบว่า บางทีคนที่ทำให้เราขมขื่นใจอาจจะกลายเป็นคนที่ใกล้ชิดของท่านนั่นแหละ ท่านจะทำทอย่างไร ? สิ่งที่ทำได้คือการดูแลซึ่งกันและกันมากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ให้เวลากับคนในครอบครัวมากขึ้น และให้ลุกๆของเราอยู่ในการอบรมตามพระวจนะของพระเจ้า เมื่อเขาเติบโตขึ้นเขาจะไม่เดินหลงทางไป….. สภษ 22:6 ข้อ 15 การตีสอนก็สำคัญ….
ประการที่ 2 การให้อภัยผู้อื่น และการสร้างสันติ ปฐก 26:29-33
-อีกสิ่งหนึ่งที่คนแห่งพระพรจะต้องกระทำก็คือ ไม่เพียงแอ่นอกรับความเจ็บปวดอย่างชื่นชมยินดีเท่านั้น แต่พระเจ้าต้องการให้เราเรียนรู้จักการให้อภัยต่อผู้อื่น ดังเช่นอิสอัคได้ยอมให้อภัยแก่ศัตรูที่เกลียดชังและขับไล่ตนเองอย่างไร้เกียรติยศ พระเจ้าได้ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นแก่อิสอัคก็เพื่อสอนเขา ให้เขากลายเป็นคนที่มีน้ำใจความรัก มีความเมตตาปราณีต่อผู้อื่น
-ตัวอย่าง : นางสาวไทย หรือนางงามจักรวาล มักจะมีใจเมตตากรุณาต่อเด็กๆที่ด้อยโอกาส เพราะนั่นแสดงถึงความงดงามที่แท้จริง สภษ. 17:9 บุคคลผู้ให้อภัยการทรยศก็มุ่งจะสร้างมิตรภาพ แต่คนปากโป้งจะทำลายความเป็นมิตร
คส. 3:13 จงผ่อนหนักผ่อนเบาซึ่งกันและกัน และถ้าแม้ว่าผู้ใดมีเรื่องราวต่อกัน ก็จงยกโทษให้กันและกัน องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงโปรดยกโทษให้ท่านฉันใด ท่านจงกระทำอย่างนั้นเหมือนกัน
ลก. 17:3 จงระวังตัวให้ดี ถ้าพี่น้องผิดต่อท่านจงเตือนเขา และถ้าเขากลับใจแล้ว จงยกโทษให้เขา
-คนแห่งพระพรควรจะเรียนรู้จักการให้อภัย และมุ่งสร้างสันติภาพเกิดขึ้นมากกว่าการสร้างศัตรูและการขัดแย้งกัน ซึ่งไม่ได้สำแดงออกถึงลักษณะคนของพระเจ้า และพระคัมภีร์เตือนไว้ว่าในยุคสุดท้ายผู้คนจะมีจิตใจที่เต็มไปด้วยการไม่ให้อภัยต่อกันและสังคมที่เราอยู่ด้วยกันจะขาดความรักลงทุกที นี่คือโอกาสที่คริสเตียนจะต้องสร้างความแตกต่างให้คนภายนอกเห็น
2ทธ. 3:3 ไร้มนุษยธรรม ไม่ให้อภัยกัน ใส่ร้ายกัน ไม่ยับยั้งชั่งใจ ดุร้าย เกลียดชังความดี
-พระราชาและพระสหาย รวมทั้งแม่ทัพก็สำแดงออกโดยการขอโทษ และอิสอัคก็ได้แสดงออกถึงการให้อภัย โดยการเลี้ยงอาหาร การทำอาหารทานด้วยกันคือการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีอีกทางหนึ่ง เหมือนอาหารแห่งความรักที่เราต่างนำอาหารมาทานด้วยกัน เป็นครอบครัวในพระคริสต์ และการนั่งลงทานอาหารร่วมกันแสดงให้เห็นถึงการให้อภัยต่อกัน และทั้งสองฝ่ายต่างก็ทำสัญญาต่อกันว่าจะไม่ทำร้ายหรือสร้างความเจ็บปวดให้กันอีก
-หลายครั้งที่แต่ละวันเราก็มีคนมากมายทำให้เราสะดุด และรู้สึกเจ็บปวดและทำให้เราโกรธ และเราก็อยากแก้แค้นและจัดการเรื่องเหล่านั้นตามอารมณ์พาไป และเราก็เห็นว่ายิ่งเราเดินจากกันไปไกลเท่าไร เราก็ยิ่งเจ็บปวดเท่านั้น สิ่งที่เราจะทำได้ดีที่สุดคือการให้อภัยแก่เขา ตัวอย่าง : พระเยซูอธิษฐานว่า ขอโปรดอภัยแก่เขา เพราะเขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไรลงไป…..
-การที่เราเคลียร์ปัญหาความโกรธแค้น การเก็บเอาความรู้สึกที่เจ็บปวดลึกๆไว้ข้างในใจของเรา จะทำให้เราใจไม่สะอาด และยังทำลายสุขภาพของเราด้วย และมันกลายเป็นบาดแผลในชีวิต
-พี่น้องที่รัก…. ทันทีเมื่ออิสอัคให้อภัยแก่ศัตรูของเขา คนใช้ของเขาก็มารายงานว่า พวกเขาพบน้ำแล้ว… เป็นบ่อน้ำแห่งความชื่นชมยินดีจากพระเจ้า พระเจ้าประทานพระพรว้อนพระพรเข้ามาเติมเต็มในครอบครัวของอิสอัคตลอด…. ยิ่งแจกจ่ายไปยิ่งได้รับพระพรมากขึ้น ไม่ขาดบ่อน้ำแห่งพระพร ยิ่งให้ก็ยิ่งได้รับน้ำ ( กลายเป็นเบเออร์เชบา )