ความคิดของมีดโกน

กาลครั้งหนึ่ง มีมีดโกนหนวดสวยอันหนึ่ง ทำงานอยู่ในร้านตัดผม
วันหนึ่งไม่มีลูกค้าเลย มันจึงออกจากด้ามไปผึ่ง แดด
เมื่อมันเห็นพระอาทิตย์ส่องแสงสะท้อนใบมีดราวกับกระจก
มันมีความ รู้สึกภูมิใจในประกายของมันมาก
ดังนั้น เมื่อมันหวนคิดถึงอดีตที่เป็นเพียง มีดโกนหนวด จึงรำพันว่า
“วันหนึ่ง ข้าจะกลับไปในร้านที่ข้าเพิ่งจะออกมา หยก ๆ ไหมนะ” ไม่แน่ ๆ!
พระผู้เป็นเจ้าคงไม่โปรดแน่เลยที่ความงามเจิด จ้า
จะกลับไปโกนหนวดที่ฟอกสบู่แล้วของผู้คนหยาบคายน่าเกลียดเหล่า นั้น !
ข้าไม่อยากทำงานเป็นเครื่องจักรกลเช่นนั้นอีกต่อไป
รูปร่างที่งด งามของข้าถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำงานเหล่านี้หรือ ไม่ใช่แน่!

ด้วยเหตุ นี้ “ข้าจะไปซ่อนตัวอยู่ในสถานที่ลับ
เพื่อลิ้มรสชาติชีวิตพักผ่อนแสน สงบ”
พูดจบ มีดโกนหนวดก็แอบซ่อนตัวอย่างดีเพื่อหลบสายตาคนอื่น ๆ
หลาย เดือนผ่านไป วันหนึ่ง มันอยากออกไปสูดอากาศจึงออกจากที่ซ่อน
แต่กว่าจะออก ได้ก็ลำบากลำบนเต็มที
เมื่อมันมองดูตัวเอง มันก็งุนงงเป็นที่สุด ช่างน่า แปลกใจอะไรอย่างนี้
มันผิดหูผิดตาเสียจนเหมือนกันเลื่อยขึ้นสนิม
และใบ มีดของมันก็ไม่สะท้อนความงดงามของพระอาทิตย์อีกต่อไป
มันสำนึกผิดอย่างขม ขื่น แต่ไร้ประโยชน์ที่จะเสียใจกับความงามที่หายไป
มันร้องไห้กับความเสีย หายที่แก้ไขไม่ได้แล้วนี้ พร้อมกับพูดว่า
“อนิจจา! คมมีดที่เสียไปน่าจะได้ ใช้งานที่ร้านตัดผมมากกว่า!
ความบางเฉียบของคมมีดข้ากลายเป็นอะไรไป
ใบ มีดที่เจิดจ้าของข้าอยู่ที่ไหน
ตอนี้ข้าถูกสนิมกินจนกร่อน ดูน่าเกลียดน่า ชัง
ความทุกข์ของข้าไม่มีทางแก้ได้”

คนขี้เกียจก็เหมือนกับมีดโกน นี้ ไม่ทำงานเอาแต่เพ้อฝัน
จึงสูญเสียรูปร่างและความคมไป
สนิมนั้นคือ ความเขลาและความเกียจคร้าน

คริสเตียนที่มีของประทานมากมาย  แต่ไม่ยอมรับใช้ตามของประทาน มัวแต่โยกย้ายคริสตจักรไปมา เที่ยวหาแหล่งพระพร ทุ้งหญ้าที่จะหวังเป็นเพียงอาหารจิตวิญญาณไปเพียงวันๆไม่ยอมอุทิศตัวในการงานใดๆเพื่อพระราชกิจของพระเจ้า
ไม่ช้าจะพบว่าแม้แต่ที่จะฝังศพของตนเอง ก็ไม่มีศิษยาภิบาลคนใดอยากจะเป็นเจ้าภาพจัดงานให้กินลมกินแล้ง

 

คอลัมนิสต์คริสเตียน
โดย ศิษยาภิบาลเรวัฒน์ เทพจักร์
คริสตจักรศรัทธาร่วมใจ