1โครินธ์ 10:13 (TH1971) ที่กล่าวไว้ว่า “ไม่มีการทดลองใดๆ เกิดขึ้นกับท่าน นอกเหนือจากการทดลองซึ่งเคยเกิดกับมนุษย์ทั้งหลาย พระเจ้าทรงสัตย์ธรรม พระองค์จะไม่ทรงให้ท่านต้องถูกทดลองเกินกว่าที่ท่านจะทนได้ และเมื่อท่านถูกทดลองนั้น พระองค์จะทรงโปรดให้ท่านมีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้ด้วย เพื่อท่านจะมีกำลังทนได้”
1. พระเจ้าทรงซื่อสัตย์ในทุกการทดลอง
คำสัญญาใน 1 โครินธ์ 10:13 เป็นรากฐานที่ยืนยันให้เรารู้ว่า ไม่ว่าการทดลองใด ๆ ที่เข้ามาในชีวิตของเราก็ไม่ใช่เรื่องที่พระเจ้าทรงละเลยหรือทิ้งไว้ให้เราลำพัง
•ในขณะที่เราเผชิญกับอุปสรรคหรือความยากลำบาก พระเจ้าทรงทราบถึงจุดอ่อนและความอ่อนแอของเรา พระเยซูทรงเสนอตัวเป็นผู้เห็นอกเห็นใจเรา “เพราะเราไม่มีพระผู้เป็นเจ้าแห่งความทุกข์ทรมานที่ไม่เข้าใจ” (ฮีบรู 4:15)
•สดุดี 34:19 ยังกล่าวว่า “แม้คนชอบธรรมจะประสบกับความทุกข์ทรมาน แต่พระองค์ทรงปลดปล่อยเขาจากทุกข์” ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความเมตตาและความซื่อสัตย์ของพระองค์
2. การทดลองเป็นเครื่องมือแห่งการเติบโตและการเรียนรู้
การทดลองที่เข้ามาในชีวิตเรา ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อทำลายหรือทำให้เราพ่ายแพ้ แต่กลับเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ให้เราได้เติบโตในศรัทธา
•ยากอบ 1:2-4 เตือนเราให้ “ถือว่าความยากลำบากเป็นความสุข” เพราะความท้าทายเหล่านี้เป็นเครื่องทดสอบศรัทธาที่จะนำไปสู่ความอดทนและความสมบูรณ์ในงานของพระเจ้าในชีวิตเรา
โรม 8:28 ย้ำว่า “ทุกสิ่งร่วมกันทำให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ที่รักพระเจ้า” ไม่ว่าการทดลองใด ๆ จะเข้ามา พระเจ้าทรงเปลี่ยนทุกอย่างให้กลายเป็นเครื่องมือในการสร้างสรรค์และเสริมสร้างเรา
3. พระเจ้าทรงจัดเตรียมทางออกในทุกการทดลอง
หนึ่งในข้อสัญญาที่เป็นที่ยืนยันในพระวจนะคือ “เมื่อท่านถูกทดลองนั้น พระองค์จะทรงโปรดให้ท่านมีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้”
•พระเจ้าทรงเปิดเผยวิธีและทางออกในทุกสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะไม่มีทางออก ผ่านการแนะนำในพระวจนะ การสวดมนต์ และการรับคำเทศนาจากคริสตจักรและเพื่อนร่วมศรัทธา
•1เปโตร 5:10 สัญญาว่า “หลังจากที่ท่านได้รับความทุกข์เพียงเล็กน้อยแล้ว พระเจ้าผู้ทรงประทานความอธิษฐานจะทรงฟื้นฟูท่าน” นำมาซึ่งความมั่นใจว่าทุกการทดลองในชีวิตนั้นมีจุดจบที่เต็มไปด้วยพระคุณของพระองค์
4. การวางใจในพระองค์และการดำเนินชีวิตด้วยความหวัง
ในเวลาที่เราพบกับการทดลองที่เข้ามาในชีวิต เราควรยึดมั่นในคำสัญญาของพระเจ้าที่ว่า “พระองค์จะไม่ทรงให้ท่านต้องถูกทดลองเกินกว่าที่ท่านจะทนได้”
•ความเชื่อนี้เป็นสิ่งที่เสริมสร้างจิตใจให้เราไม่หวาดกลัวหรือสับสนในยามที่ความทุกข์เข้ามาล้นเรา
•การวางใจในพระองค์เป็นเครื่องหมายของชีวิตที่มั่นคงและมีความหมาย ที่ทำให้เราเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนทุกสถานการณ์ให้เป็นบทเรียนและประสบการณ์ที่นำไปสู่การเติบโตในศรัทธาและความเข้มแข็ง
สรุป แม้ว่าเส้นทางชีวิตของเราจะเต็มไปด้วยการทดลองและความยากลำบาก แต่เรายังคงมีความหวังและความมั่นใจในพระเจ้าผู้ซื่อสัตย์ พระองค์ทรงไม่ให้เราเผชิญกับการทดลองเกินความสามารถของเรา และทรงจัดเตรียมทางออกไว้ในทุกย่างก้าวของชีวิต ให้เรามีจิตใจที่เข้มแข็ง และวางใจในพระวจนะที่ทรงเป็นแสงนำทางและกำลังใจ เมื่อเรามองย้อนกลับไปในทุกความทุกข์ เราจะพบว่าพระเจ้าได้ทรงเปลี่ยนทุกสิ่งให้เป็นเครื่องมือแห่งความสำเร็จและการเติบโตในศรัทธา จงเดินต่อไปด้วยความหวังในพระองค์ เพราะในทุกการทดลองนั้น พระเจ้าทรงอยู่เคียงข้างเราเสมอ
……………………………….
คำเทศนา/คำสอนโดย
ศิษยาภิบาลเรวัฒน์ เทพจักร์ Pastor : Rewat Thepchak
คริสตจักรศรัทธาร่วมใจ