เป็นคำอธิษฐานของโมเสส ที่เปรียบเทียบความเป็นนิรันดร์ของพระเจ้ากับความอนิจจังของมนุษย์ โมเสสเริ่มต้นด้วยการยกย่องพระเจ้าว่าทรงเป็นที่พักพิงของประชากรทุกยุคทุกสมัย พระองค์ทรงดำรงอยู่ตั้งแต่ก่อนการสร้างโลก ขณะที่ชีวิตมนุษย์เปรียบเสมือนหญ้าที่งอกขึ้นในยามเช้าและเหี่ยวแห้งในยามเย็น อายุขัยของมนุษย์เพียง 70-80 ปี เต็มไปด้วยความลำบากและความเศร้าโศก โมเสสวิงวอนขอให้พระเจ้าสอนให้รู้จักนับวันแห่งชีวิตอย่างถูกต้อง เพื่อจะได้มีจิตใจปรีชาฉลาด และขอให้พระเจ้าทรงเมตตา ประทานความยินดีและความสำเร็จในการงานแก่ประชากรของพระองค์
บทเรียนฝ่ายวิญญาณ
 
1. ตระหนักถึงความจำกัดของชีวิต ชีวิตแสนสั้น
ชีวิตของมนุษย์อยู่เพียงชั่วครู่บนโลกนี้ คนที่มีปัญญาจะเข้าใจความจำกัดของชีวิต และดำเนินชีวิตด้วยความยำเกรงพระเจ้า การเข้าใจว่าชีวิตสั้นนักจะช่วยให้เราใช้เวลาอย่างมีคุณค่า ไม่ใช่เพื่อตนเองซึ่งไร้ค่า แต่เพื่อพระเจ้าซึ่งจะได้รับผลดีชั่วนิรันดร์
“พระองค์ทรงกวาดมนุษย์ไปเสีย เขาเป็นเหมือนความฝัน เหมือนหญ้าที่งอกขึ้นใหม่ในเวลาเช้า ในเวลาเช้ามันก็บานออกและขึ้นใหญ่ ครั้นเวลาเย็นก็ร่วงโรยและเหี่ยวไป” สดุดี‬ ‭90‬:‭5‬-‭6‬ ‭TH1971‬‬
“วันทั้งปวงของข้าพระองค์ทั้งหลายสิ้นไปใต้พระพิโรธ ของพระองค์ กำหนดปีของข้าพระองค์สิ้นสุดลงอย่างเสียงถอนหายใจ กำหนดปีของข้าพระองค์คือเจ็ดสิบ หรือสุดแต่เรื่องกำลัง ก็ถึงแปดสิบ แต่ช่วงชีวิตนั้นมีแต่งานและความลำบาก ไม่ช้าก็สูญไปและข้าพระองค์ก็จากไป”‭‭สดุดี‬ ‭90‬:‭9‬-‭10‬ ‭TH1971‬‬
 
2. พึ่งพาในความรักมั่นคงของพระเจ้า
แม้ชีวิตจะเปราะบางและไม่แน่นอน แต่พระเจ้าทรงเป็นที่พึ่งพิงนิรันดร์ ผู้ที่ระลึกถึงความรักมั่นคงของพระเจ้าอยู่เสมอจะเต็มไปด้วยความชื่นบานตลอดชีวิต เราสามารถมีความหวังในพระเจ้าแม้ในยามยากลำบาก เพราะพระเมตตาของพระองค์ไม่เคยยั้งหยุด เป็นสดใหม่ทุกเช้า
3. แสวงหาปัญญาในการดำเนินชีวิต
การที่เราทูลขอให้พระเจ้าสอนให้รู้จักนับวันแห่งชีวิตได้ถูกต้อง แสดงถึงความปรารถนาที่จะมีจิตใจปรีชาฉลาด ปัญญานี้มาจากการยำเกรงพระเจ้า และช่วยให้เราดำเนินชีวิตสอดคล้องกับพระประสงค์ของพระองค์
“ขอพระองค์ทรงสอนให้นับวันของข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะมีจิตใจที่มีปัญญา”
‭‭สดุดี‬ ‭90‬:‭12‬ ‭TH1971‬‬
 
4. มุ่งเน้นที่ผลงานที่ยั่งยืน
โมเสสอธิษฐานขอให้พระเจ้าประทานให้ผลงานที่ทำสำเร็จและมีความมั่นคง คริสเตียนควรทำงานที่มีคุณค่านิรันดร์ ไม่ใช่เพียงเพื่อตนเอง หรือผลประโยชน์ในโลกนี้ มุ่งหาเกียรติยศการยอมรับบนโลก แต่เพื่อแผ่นดินของพระเจ้า เพื่อผลงานนั้นจะยังคงอยู่แม้เมื่อชีวิตบนโลกนี้สิ้นสุดลง
 
5. พบความชื่นชมยินดีในทุกสถานการณ์
แม้ชีวิตจะมีความทุกข์ยาก  แต่เราสามารถทูลขอให้พระเจ้าประทานความยินดีแก่เรา เมื่อเรามีพระเจ้าเป็นความหวังทั้งหมด เราจะมีความชื่นชมยินดีได้อยู่เสมอในทุกสถานการณ์ เพราะเรารู้ว่าพระเจ้าจะรับรองในงานของเรา ในอนาคต และเป็นความหวังใจให้กับเรา
“ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงหันมาเถิดพระเจ้าข้า หรือยังอีกนานเท่าใด ขอทรงมีความสงสารบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ ขอทรงให้ข้าพระองค์ทั้งหลายอิ่มในเวลาเช้าด้วยความรัก มั่นคงของพระองค์ เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะได้เปรมปรีดิ์และยินดีตลอด วันเวลาของข้าพระองค์ ขอทรงให้ข้าพระองค์ทั้งหลายยินดีให้มากวัน เท่ากับที่พระองค์ได้ทรงให้ข้าพระองค์ทุกข์ยากนั้น และให้มากปีเท่ากับที่ข้าพระองค์ได้ประสบการร้าย ขอให้พระราชกิจของพระองค์ปรากฏแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ และให้ความรุ่งโรจน์ของ พระองค์ปรากฏแก่ลูกหลานของเขา ขอความโปรดปรานของพระเจ้าของข้าพระองค์อยู่ เหนือข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงสถาปนาหัตถกิจของข้าพระองค์เหนือข้าพระองค์ พระเจ้าข้า ขอพระองค์ทรงสถาปนาหัตถกิจของ ข้าพระองค์ทั้งหลาย” สดุดี‬ ‭90‬:‭13‬-‭17‬ ‭TH1971‬‬
 
** ไม่สำคัญว่าเราจะมีชีวิตอยู่ยืนยาวหรือสั้นแต่มันอยู่ที่การใช้ชีวิตของเราที่แสนสั้นนั้นอย่างสร้างสรรค์ ทุกลมหายใจที่เสียไปหันมาใส่ใจและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับพระเจ้า รับใช้พระเจ้า และสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนมนุษย์รอบข้าง #อย่างเหมาะสม ใช้ชีวิตในโลกใบนี้อย่างผ่อนคลาย โดยตระหนักว่าชีวิตเราอยู่ไม่นาน ให้กับชีวิตที่แสนสั้นตักเตือนใจตัวเองเสมอว่าวันนึงเราต้องจากโลกใบนี้ไปอยู่กับพระเจ้าผู้เป็นนิรันดร์ สิ่งของต่างๆที่ผมกำลังเสาะหา สะสม สรรสร้างขึ้นมาจะนำหิ้วเอาไปซักอย่างเดียวก็ไม่ได้ คนที่เรารัก หรือคนที่รักเราก็ขอพาติดตัวไปด้วยก็ไม่ได้
สิ่งที่ยุติธรรมที่สุดในโลกใบนี้คือทุกคนมีเวลาที่จำกัด 
.

……………………………….
คำเทศนา/คำสอนโดย
ศิษยาภิบาลเรวัฒน์ เทพจักร์  Pastor : Rewat Thepchak
คริสตจักรศรัทธาร่วมใจ